เห็ดฟิลินัสในประวัติศาสตร์

ยุคปัจจุบัน

เห็ดฟิลินัสกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้งเมื่อกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อชาวญี่ปุ่นบนเกาะมิชิม่า จังหวัดนางาซากิ นำเห็ดชนิดนี้มาใช้รักษาผู้ป่วยจากระเบิดปรมาณูที่ ฮิโรชิม่าและนางาซากิ ซึ่งถูกส่งมาพักรักษาตัวบนเกาะแห่งนี้

ในปี ค.ศ. 1968 นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ดร. อิเคกาวะและทีมวิจัย ได้ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสารการแพทย์ญี่ปุ่น เรื่องการยับยั้งเนื้องอกโดยเห็ดฟิลินัส ลินเทียส จากนั้นเห็ดฟิลินัส ลินเทียส ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลีให้วางจำหน่ายในท้องตลาด

ยุคโบราณ

ในประเทศจีนและญี่ปุ่น เห็ดฟิลินัส ลินเทียส ได้รับการยกย่องว่าเป็นยาสมุนไพรพันปี

จักรพรรดิของราชวงศ์จีนและพระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นนิยมดื่มชาและยาที่ทำจากเห็ดฟิลินัส ลินเทียส เพื่อให้มีกำลังและมีอายุยืนยาว ตามประวัติศาสตร์จีน หรือราว 220ปีก่อนคริสตกาล จักรพรรดิจิ๋นซี ได้ส่งหนุ่มสาวจำนวน 3,000 คน ไปยังเกาะแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เพื่อค้นหาเห็ดหลินจือพันปีซึ่งถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะ โดยเห็ดชนิดที่กล่าวถึงนี้ เชื่อว่าเป็นเห็ดฟิลินัส ลินเทียส

เสินหนงเปิ่นฉ่าวจิง ถือเป็นตำราเภสัชเล่มแรกของจีนซึ่งมีอายุกว่า 2000 ปี ได้จำแนกสมุนไพรที่ใช้เป็นยารักษาโรค 365 ชนิดจาก รากพืช หญ้า ไม้ ขนสัตว์ หิน และสัตว์ และแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นสูง ชั้นกลาง และชั้นต่ำ สมุนไพรที่จัดอยู่ในชั้นสูงมีประสิทธิภาพรักษาโรคหลายชนิด ช่วยบำรุงรักษาและฟื้นฟูความสมดุลแก่ร่างกายโดยปราศจากผลข้างเคียง สมุนไพรชั้นกลางมีคุณสมบัติบำรุงและเพิ่มพลังแก่ร่างกาย แต่ไม่ควรบริโภคติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สมุนไพรชั้นต่ำ ใช้รักษาโรคได้บางชนิดแต่ต้องใช้ปริมาณน้อย สมุนไพรพิษบางชนิดจัดอยู่ในชั้นนี้ด้วย

ตั้งแต่สมัยโบราณเห็ดฟิลินัส ลินเทียส ถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งในสมุนไพรชั้นสูง เพราะไม่มีผลข้างเคียงแม้ใช้ในปริมาณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยคงความอ่อนเยาว์และช่วยให้มีอายุยืน จากประวัติการนำมาใช้อย่างยาวนานแสดงว่าเห็ดฟิลินัส ลินเทียส มีความปลอดภัยแม้จะบริโภคในปริมาณที่สูงและสามารถใช้คู่กับการรักษาประเภทอื่น ๆ

จากการสะสมความรู้ผ่านการสังเกตและบันทึกติดต่อกันเป็นเวลา 4000 ปี การแพทย์แผนโบราณของจีนยืนยันว่าสุขภาพที่ดีต้องมาจากร่างกายที่สมดุล ซึ่งวิธีการดูแลความไม่สมดุลภายในร่างกายต้องใช้หลายวิธีพร้อมกัน ตั้งแต่เรื่องโภชนาการ ยาสมุนไพร การออกกำลังกาย และการทำจิตให้สงบ โรคต่างๆเปรียบได้กับภูเขาน้ำแข็ง เพราะอาการที่แสดงออกมาเนื่องจากความไม่สมดุลภายในร่างกายอาจมีเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับส่วนที่มองไม่เห็นใต้น้ำ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู

จากบันทึกโดยแพทย์แผนโบราณที่มีอายุนับร้อยปี รายงานว่ามีการใช้เห็ดซางฮวงเพื่อวินิจฉัยโรคได้แต่เนิ่นๆ ซึ่งเป็นการป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค และยังสามารถทำให้ร่างกายต่อสู้กับโรคได้ก่อนที่แพทย์ที่ดูแลจะตระหนักถึงความผิดปกติ พวกเขาเชื่อว่าถ้าร่างกายผู้ป่วยตอบสนองโดยมีภาวะขับพิษหลังจากใช้เห็ดซางฮวง ภาวะนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ยังไม่แสดงออกมา